โรงฆ่าสัตว์ หรือโรงบาลศูนย์ คุณหมอขอแฉด้วยตัวเอง หลังจากพยาบาลและทีมแพทย์สั่งจ่ายยามั่ว!

โรงฆ่าสัตว์ หรือโรงบาลศูนย์ คุณหมอขอแฉด้วยตัวเอง หลังจากพยาบาลและทีมแพทย์สั่งจ่ายยามั่ว! กลายเป็นเรื่องราวโด่งดังในโลกออนไลน์ขึ้นมาทันที เมื่อนายแพทย์ท่านหนึ่งนำเรื่องราวของโรงพยาบาลชื่อดังมาโพสต์ในทำนองติติงอย่างแรง หลังจากที่เขาได้หิ้วปีกหญิงสาวที่มีอาการเมา+โดนโรคประจำตัว(โรคหืด) เล่นงานเข้าเต็มเปา ในช่วงระยะเวลาเช้ามืด แต่พอไปถึงโรงพยาบาลใหญ่กลับมองเมินว่าแค่เมามาย และน่าจะเครียดจากการทะเลาะเบาะแว้ง ซึ่งถึงแม้นายแพทย์ท่านนี้จะพยายามอธิบายว่าไม่ใช่! อีกทั้งยังได้ขอตัวยาที่จำเป็นสำหรับโรค แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือที่ดีแม้แต่น้อย
จึงเป็นเหตุให้ต้องพากันหิ้วปีกย้ายโรงพยาบาลถึงสองครั้ง และทุก ๆ ที่ก็จ่ายยาข้าง ๆ คู ๆ เป็นเหตุให้อาการของผู้ป่วยเริ่มแย่ลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งในที่สุดนายแพทย์ต้นเรื่องก็อดทนรอจนร้านขายยาเภสัชกรเปิด และซื้อตัวยาที่จำเป็นเพียงแค่ไม่กี่ร้อยบาทพ่นเข้าจมูกผู้ป่วย อาการก็ดีขึ้นจนแทบหายเป็นปลิดทิ้งทันที



โรงฆ่าสัตว์ หรือโรงบาลศูนย์กันวะ..ว่าจะไม่ด่าแล้วนะ!!
เช้าตรู่นี้ ช่วงตี 3-3ครึ่ง คนไข้..มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ไม่มีสายหูฟังแต่ใช้หูแนบที่หลัง มีเสียงดัง wheezing เบาๆเวลาหายใจออกบริเวณหลอดลม มีอาการไอ สำลักเวลาแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกมากๆ ทุรนทุราย พูดแทบไม่ได้ ได้แต่พูดย้ำๆว่า หายใจไม่ออกๆๆๆ
..ก่อนนี้ไปกิน เหล้าปั่น และ smirnof..แม้จะเมาหลายครั้งแต่ไม่เคย..หายใจไม่ออก
..ประวัติเคยมีอาการ..หายใจไม่ออกเวลาเหนื่อยๆ(หืด)
จากประสบการณ์ที่ผมเป็นแพทย์มา 30 กว่าปี..คนไข้เป็น Asthma หรือหืดแน่นอน..จึงจะพาไปซื้อยาพ่น Ventolin ปรากฏว่าตี4 ร้านยาที่ห้าแยกน้ำพุ..ปิด
..คนไข้หายใจเหนื่อยมาก ทุรนทุราย จึงรีบพาไปโรงบาลศูนย์อุดรธานี..รีบบอกแพทย์เวรและพยาบาลว่า..คนไข้เป็น Asthma หืด มีอาการหอบหายใจไม่ออก
พยาบาลคนหนึ่ง..สวนออกมาว่า ทะเลาะกันมาไหม ผมบอกว่าเปล่า เขาเป็นหืด แล้วพยาบาลรีบตะโกนว่า Anxiety ,Diazepam ผมรีบบอกว่าผมเป็นแพทย์ เขาถามว่าแพทย์ที่ไหน..ผมบอกว่าตั้งแต่พวกคุณยังไม่เกิดและเลิกคิดเลยว่าAnxiety (เครียด)..เขารีบไล่ผมไปทำบัตร แล้วไล่ผมรีบออกจากห้อง เขาบอกว่า..พี่ยิ่งอยู่เขายิ่งเป็น(เครียดมาก)..นึกในใจว่า นี่พวกควายทั้งนั้นที่โรงบาลนี้
..พยาบาลอีกคนว่า..นี่หมอฉีดValium แล้วเด่วก็ดีขึ้นคุณรีบออกไปหาที่นั่งพักข้างนอกโน้น..ผมตกใจ พยาบาลวัดชีพจร(หัวใจ)เต้น 136-145 ครั้งต่อนาที..นี่จะช๊อกจากหัวใจล้มเหลว เพราะหายใจไม่ออก แถมฉีดแวเลี่ยม1หลอด..เข้าไปในคนเมาที่เป็นหืด..อาการยิ่งหนัก..มันไม่รู้หรือว่า ยานอนหลับ+เหล้า..จะกดศูนย์ควบคุมการหายใจ..อาจหยุดหายใจได้ทันที..พยาบาลก็รีบไล่ผมเป็นครั้งที่สอง
ผมออกไปนั่งด้านนอกห้อง ER..ได้เกือบ 20นาที..ทนไม่ไหว กลัวจะน๊อคหยุดหายใจเพราะฉีด Diazepam ขอเข้าดูอาการ..ไม่มีใครเฝ้าดู ปิดม่าน คนไข้ทุรนทุราย ชีพจร 143 ครั้งต่อนาที..ผมรีบหิ้วปีกลงจากเตียง ขอย้ายโรงบาลทันที..ผมขอเปลแต่ไม่ไม่ใครช่วย ผมหิ้วปีกลงจากเตียง ผ่านหน้าน้องที่เป็นหมอแพทย์เวร..มองแค่ตาปริบๆ พยาบาลรีบตะโกน..พี่อย่าลืมไปจ่ายบิลด้วย 150 บาท..ผมวางคนไข้นั่งหน้าประชาสัมพันธ์ พยาบาลสองคนที่นั่น..ไม่มีใครเหลียวแล ไม่เรียกเปล..ผมวิ่งไปห้องจ่ายเงินที่อยู่ไกล..รีบหิ้วปีกไปโรงบาล...ราว ๆ ตี5
ที่..มีแต่พยาบาล..ผมพยายามบอกว่าเขาเป็นหืด ผมถามหาแพทย์ เขายังไม่รีบตรวจหรือทำอะไรกัน..ผมบอกขออ๊อกซิเจน และฉีดกลูโคสให้ก่อน..เขาวัดชีพจรได้136 ครั้งต่อนาที
..พอหมอมาถึง ผมบอกว่าผมเป็นแพทย์..เขาเป็นหืด หายใจไม่ออก และเขาเมาขอกลูโคสก่อน..เขาก็สั่งตาม..หมอบอกว่าตรวจคลื่นหัวใจ EKG ไหม ผมมองหน้าหมอ..แล้วถามว่าตรวจทำไม..หมอตอบว่าหัวใจเต้นเร็ว ผมนึกในใจว่าเมิงยังไม่รู้รึว่าหัวใจเต้นเร็วเพราะอะไร(มันหายใจไม่ออก) คนกำลังจะตายทุรนทุราย เมิงไม่คิดทำอะไร เมิงยังมีกะจิตกะใจหาเงินเข้าโรงบาล มันไม่รู้ว่าคนใจจะขาดมันทรมานแค่ไหน
..สักครู่หมอถามว่าจะแอดมิดไหม..ผมบอกว่าขอดูอาการก่อน แอดมิดแล้วหมอจะรักษายังไง..เขาไม่ตอบมันคงคิดจะเอาไปทรมานข้างบนหาเงินโดยไม่ช่วยให้ดีขึ้น อาจตายบนห้อง เพราะมันไม่รู้วิธีรักษา แถมพยาบาลวิ่งเข้ามาบอกว่า..คงเมามากมากหละสิ หนูก็เป็นอย่างนี้แหละ ปล่อยให้นอนเด่วหายเอง(บร๊ะเมิงตร้สรู้กันหมดนะนี่)..ผมขอยาสเตียรอยด์หยอดจมูก..เพื่อลดการคัดจมูก..และขอ Ventolin ยาพ่นขยายหลอดลม..หมอให้แค่ยาหยอดจมูก..ไม่ให้ยาขยายหลอดลม..แต่สั่งkammilosanM มาให้..นึกในใจนี่ก็ควายอีกตัว เมิงเอายาอมฮอลล์มาขายกูดีกว่า
..พอได้กลูโคสก็ดีขึ้นเล็กน้อย..แต่ชีพจรขึ้นสูงตามอัตราการหายใจไม่ออก..ผมจ้องที่จอมอนิเตอร์..ทุกครั้งที่ชีพจรลงม124-125..เขาจะดีขึ้น..พอสวิงขึ้น130-140 ครั้ง เขาจะแน่นเจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก
..พยาบาลบอกให้ผมออกไปข้างนอกเด่วน้องเขาจะดีเอง..เขาหาว่าผมรบกวนคนไข้..ผมบอกผมกำลังจ้องจอมอนิเตอร์..และคิดว่าจะทำยังไง..นี่ไม่ใช่โรงพยาลบาลของกู คิดหาวิธี แอบลุ้นและภาวนาให้รอดไปได้..และรอดูว่ายาหยอดจมูกจะช่วย..สักพัก..สเตียรอยด์ออกฤทธิ์ จมูกเริ่มโล่ง แน่นหน้าอกลดลง หายใจดีขึ้น..มองดูชึพจร ค่อยๆลด จาก 130..125..103.. คนไข้เริ่มหายใจเบาสบายขึ้น นอนหลับได้..ไม่ทุรนทุราย..ผมมองดูนาฬิกา 6.15 นาที..ร้านขายยาคงเปิด..เขาลุกเดินได้..หายใจคล่องขึ้นแต่ยังเจ็บตรงหน้าอก..หายใจลึกไม่ได้
ผมรีบไปจ่ายตังค์..พาไปร้านขายยาที่ตลาดเทศบาล2..ขอ Ventolin 1 หลอด ราคา200 บาท..รีบให้พ่นไป2ปับ..ไม่ถึง 5 นาที หายใจลึกได้เป็นปกติ
..นึกในใจว่า.กูเกือบได้ไปงานศพซะแล้ว..แม่ง โรงฆ่าสัตว์ดีๆนี่เอง ไอ้โรงบาลศูนย์บ้าๆนี่




ภาพและข้อมูลจาก Chackrapong Deesri
เรียบเรียงโดย Boxza

Facebook Comments
0 Comment "โรงฆ่าสัตว์ หรือโรงบาลศูนย์ คุณหมอขอแฉด้วยตัวเอง หลังจากพยาบาลและทีมแพทย์สั่งจ่ายยามั่ว!"

Top